กลับมาพบกับคอลัมน์พิเศษ Road to Kokeshi กันอีกครั้ง ก่อนหน้านี้เราพูดถึง Sinners Turned Saints วงดนตรีแนวโพสต์แบล็กเมทัล/แบล็กเกซสัญชาติไทยที่จะร่วมแสดงเป็นวงเปิดในคอนเสิร์ต Kokeshi Live in Bangkok ในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้กันไปแล้ว (อ่านได้ที่นี่) ในตอนที่สองนี้ เราจะพาไปรู้จักกับโคตรวงโพสต์ฮาร์ดคอร์สายทำลายล้างที่ขึ้นชื่อเรื่องการใส่สุดบนเวทีในทุกครั้งที่ขึ้นแสดง ไม่ว่าจะเป็นงานโชว์ในไลฟ์เฮาส์เล็ก ๆ หรือเวทีใหญ่ไซซ์มหากาพย์ในแบบฉบับของเทศกาลดนตรี
พวกเขาคือ Ugoslabier
วงดนตรีชื่อประหลาดที่ไม่ได้มาจากสาธารณรัฐยูโกสลาเวียวงนี้ ประกอบด้วยนักร้องนักดนตรีขาโหดสัญชาติไทย 5 ท่าน คืออ้อ นักร้องนำ, โอ๋ & โอ๊ต มือกีตาร์, กัณฑ์ มือเบส และน้ำมนต์ มือกลอง—คนที่ติดตามซีนเพลงสายหนักเมืองไทย น่าจะคุ้นเคยชื่อของ Ugoslabier กันดีอยู่แล้ว เพราะมีงานเพลงและงานแสดงออกมาแบบต่อเนื่องไม่ขาดสาย
ยูโกฯ ออกสตาร์ตเส้นทางดนตรีในนามวงนี้กันมาตั้งแต่ปี 2012 ด้วยการรวมตัวกันของเพื่อน ๆ นักดนตรีที่เคยทำงานเพลงในนามวงอื่นกันมาก่อน (ยุคแรกมีนักร้องนำเป็น พอล โซลิส แห่งวง Housetrap ที่ปัจจุบันย้ายฐิ่นฐานกลับบ้านเกิดที่ประเทศสก็อตแลนด์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว) ด้วยความที่มีประสบการณ์กันมาก่อนทุกคน ไม่ได้เป็น novice เกิดใหม่ ก็ทำให้ผลงานชุดแรกอย่าง The Republic of Ugoslabier คลอดออกมาแบบเข้าที่เข้าทางและจัดวางที่ทางให้วงได้ยืนในซีนดนตรีสายหนักเมืองไทยได้โดดเด่นและเห็นชัดกว่าวงหน้าใหม่หลาย ๆ วง ณ เวลานั้น วงมีครบหมดทั้งฝีมือการแต่งเพลงแบบทำเองล้วน ๆ ด้วยสัญชาตญาณแบบคนยุคอนาล็อก สไตล์การแสดงสดเหมือนเข้าโหมด berserk ตลอดเวลา และการเขียนเนื้อเพลงภาษาอังกฤษที่เล่าเรื่องราวอย่างตั้งใจ
สำหรับความตั้งใจในการเล่าเรื่อง เราแนะนำให้ลองไปเปิดเนื้อเพลงผลงานไตรภาคว่าด้วยความโกลาหลในจิตใจมนุษย์ในโปรเจกต์ Inverse ซึ่งประกอบไปด้วยสามเพลง คือ Misanthrope, Vicious Realm และ _ (เรียกว่า underscore) ดู แล้วจะรู้ว่าการผลักดันการเล่าเรื่องราวไปสุดทางเป็นเช่นไร
และอีกหนึ่งพัฒนาการทางดนตรีที่น่าสนใจของ Ugoslabier คือ โดยทั่วไปแล้ววงดนตรีร็อก ยิ่งแก่ขึ้นผลงานที่ปล่อยออกมาจะเบาลงและหันไปหาทิศทางที่เสพง่ายย่อยง่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่ใช่กับ Ugoslabier เพราะวงเลือกเติมความโหดหนักบ้าคลั่งเข้าไปในตัวงานเรื่อย ๆ หากคุณฟังเพลงเปิดตัวอย่าง “Closer Than Ever” แล้วไปฟังผลงานล่าสุดอย่าง “Tear Up the Cage” ที่เพิ่งปล่อยออกมา หรือ “Locked in Syndrome” ที่ชวน แม็ก The Darkest Romance มา (ผู้ซึ่งสามารถทำได้ทั้งเพลงเมทัลหนัก ๆ และเพลงช้าเพราะ ๆ) ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเบาลง ต้องบอกว่าวัยที่เพิ่มขึ้นมาไม่ได้ช่วยให้ลูกบ้าของวงลดลงเลย (ดีแล้ว)
ทว่า ถ้าแค่ทำเพลงได้ดี ผลงานก็โดนใจได้แค่คนฟัง ในส่วนของการแสดงสด Ugoslabier ถือว่าโคตรบ้าพลังและพร้อมลากทุกคนมาแจกจ่ายความพังด้วยกันในพื้นที่มอชพิตหน้าเวทีแบบสุดตัว หนึ่งในตำนานที่เราชื่นชอบเสมอมาคือครั้งที่คุณ กัณฐ์ มือเบสของวงกระโดดลงมาจากระเบียงชั้นสองของร้านที่จัดงาน จนได้รับอาการบาดเจ็บที่เรียกว่า ‘ขาหัก’ มาประดับเป็น achievement unlocked ครั้งสำคัญของร่างกาย ถึงขั้นที่หลังจากนั้นวงต้องเดินทางไปเล่นเปิดให้ After the Burial ที่เวียดนามกันแบบไม่มีมือเบส
และด้วยความบ้าพลังตรงนี้เองก็ทำให้วงดนตรีหลาย ๆ วงอยากร่วมงานด้วย เช่นวงเมทัลลิกฮาร์ดคอร์จากฮ่องกงชื่อ Dagger ที่ชวน Ugoslabier มาทำสปลิตอัลบั้มชื่อ In Grievance ด้วยกันในปี 2019 หรือล่าสุดก็เป็นฝั่งวงพาวเวอร์ไวโอเลนซ์จากอเมริกาอย่าง Full of Hell ที่พายูโกฯ ไปทัวร์เอเชียด้วยแบบลากยาวตลอดสัปดาห์ ไล่มาตั้งแต่เกาหลีใต้ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ก่อนจะมาใส่สุดกันที่เมืองไทยให้เละเทะแบบสบายใจไม่ต้องตื่นไปเช็กอินขึ้นเครื่อง รวมถึงเป็น 1 ใน 12 วงดนตรีที่ได้รับเลือกในโครงการ Music Exchange ครั้งที่ 3 ของ Thailand Creative Culture Agency (THACCA) ร่วมกับวง Yonlapa, Whispers และอีกหลาย ๆ วงในการส่งออกซอฟต์พาวเวอร์(แนวทางเลือก)ของไทยไปให้ต่างชาติได้รู้จักกัน
หากอยากทำความรู้จักกับ Ugoslabier แบบครบ ๆ เราแนะนำให้ลองฟังทุกอย่างที่วงลงไว้บน Spotify เพราะไม่ได้มีเยอะนัก 1) อีพีชุดแรก 2) อัลบั้ม Brew Heart ปี 2017 3) อัลบั้มสปลิตปี 2019 กับวง Dagger และ 4) ซิงเกิลหลังจากนั้นไล่มาจนถึงปัจจุบัน แต่ถ้าเอาแบบเบื้องต้นเพื่อให้เข้าใจบรรยากาศในการแสดงสดของวง ขอแนะนำให้เลือกผลงานยุคหลังย้อนไปถึงประมาณปี 2018 (หลังออกอัลบั้มแรก) เพราะเซ็ตเพลงจะเลือกจากช่วงนี้เป็นหลัก
หากคุณผู้อ่านต้องการมาสัมผัสความ ‘สด’ ‘เดือด’ ‘บ้าพลัง’ ในแบบฉบับของ Ugoslabier พวกเราทีมงาน Razor Riff ก็ขอเรียนเชิญทุกคนมาดูพวกเขากันที่หน้าเวที De Commune กันได้ที่งานคอนเสิร์ต Kokeshi Live in Bangkok ในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ นอกจาก Kokeshi และ Ugoslabier แล้ว ยังจะมี Sedative วงฮาร์ดคอร์จากออสเตรเลีย G6PD วงเมทัลคอร์จากเชียงใหม่ และ Sinners Turned Saints ที่เราเขียนถึงไปก่อนหน้านี้ร่วมแสดงด้วย บัตร pre-sale ราคา 700 บาทเท่านั้น (วันงาน 900) แล้วอย่าลืมมาเจอกัน มันด้วยกันแบบครบ ๆ ครับผม มั่นใจว่าสะใจเต็มข้อแน่นอน ซื้อบัตรที่ลิงก์นี้ได้เลย ticketmelon.com/razorriff/kokeshi เจอกัน!